ระเบียงเศรษฐกิจตอนเหนือของมาเลเซีย (Northern Corridor Economic Region: NCER):
พื้นที่อุตสาหกรรมชายแดนไทย - มาเลเซียที่ต้องจับตามอง

Northern Corridor Economic Region (NCER) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย ครอบคลุม 4 รัฐตอนเหนือของมาเลเซีย ได้แก่ (1) เกาะปีนัง (Pulau Pinang) (2) เกดะห์ (Kedah) (3) เประ (Perak) และ (4) ปะลิส (Perlis) ซึ่งติดกับพื้นที่จังหวัดสตูล สงขลา และยะลาของไทย
NCER จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลมาเลเซียในปี 2550 ภายใต้แผนพัฒนามาเลเซียฉบับที่ 9 (9th Malaysia Plan) โดยเป็น 1 ใน 5 ระเบียงเศรษฐกิจของมาเลเซียซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายความมั่งคั่งอย่างเท่าเทียมภายในประเทศ ยกระดับเศรษฐกิจและการพัฒนาของพื้นที่บริเวณรัฐตอนเหนือของมาเลเซียให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก และเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุน โดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ (1) การผลิตที่มีมูลค่าสูง (2) การเกษตรสมัยใหม่ (3) การให้บริการขั้นสูง (advance services) โดยเฉพาะการท่องเที่ยว โลจิสติกส์และความเชื่อมโยง เศรษฐกิจดิจิทัล และการศึกษา และมีหน่วยงาน Northern Corridor Implementation Authority (NCIA) กำกับดูแล โดย NCIA รายงานตรงต่อ NCER Council ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นประธาน (Chairman) และขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ NCER โดยแผนพัฒนาเชิงกลยุทธ์ NCER Strategic Development Plan (2024-2030) เปิดตัวเมื่อปี 2566
โครงการสำคัญในพื้นที่ NCER
- โครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงเส้นทางการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย ได้แก่ Perlis Inland Port (PIP) รัฐปะลิส ตั้งอยู่ใน Chuping Valley Industrial Area (CVIA) PIP เป็นท่าเรือบก (dry port) ตั้งอยู่ห่างจากด่านปาดังเบซาร์ จ. สงขลา ประมาณ 4.47 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างและมีกำหนดเปิดให้บริการภายในไตรมาส 2 ของปี 2568 โดยจะสามารถรองรับตู้คอนเทนเนอร์ได้ 300,000 TEUs โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ รัฐบาลมาเลเซียมีนโยบายจะย้าย Cargo Terminal จากสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส มายัง PIP นอกจากนี้ มีแผนที่จะพัฒนาโครงการ Perlis Sanglang Port (PSP) เน้นการสร้างท่าเรือ terminal ในการขนส่งสินค้าไปยังเกาะลังกาวี และเป็นท่าเรือที่รองรับการพัฒนาด้านพลังงาน และสินค้าทางการเกษตรในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย
- Industrial Parks ที่มีศักยภาพสูงช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทย - มาเลเซีย
- Chuping Valley Industrial Area (CVIA) รัฐปะลิส CVIA ตั้งอยู่ห่างจากด่านปาดังเบซาร์ จ. สงขลา ประมาณ 10 กิโลเมตร มุ่งเน้นอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมฮาลาล และการผลิตสีเขียว (Green Manufacturing) โดยรัฐบาลมาเลเซียมีเป้าหมายพัฒนา CVIA ให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าฮาลาลที่สำคัญ ขณะนี้เปิดรับการลงทุนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- Kedah Rubber City (KRC) รัฐเกดะห์ KRC ตั้งอยู่ห่างจาก (1) ด่านบ้านประกอบ จ. สงขลา ประมาณ 20 กิโลเมตร (เชื่อมกับด่านดุเรียนบุรง รัฐเกดะห์) (2) ด่านสะเดา จ. สงขลา ประมาณ 46 กิโลเมตร (เชื่อมกับด่านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเกดะห์) และ (3) ด่านปาดังเบซาร์ จ. สงขลา ประมาณ 75 กิโลเมตร (เชื่อมกับด่านปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส) เป็นโครงการอุตสาหกรรมยางพาราครบวงจร เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยมุ่งผลิตสินค้า อาทิ สินค้ายางพาราขั้นสูง (advance rubber material) สินค้ายางพาราสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ งานวิศวกรรม และไบโอเทคโนโลยี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา โดยในห้วงการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 28 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (Indonesia - Malaysia - Thailand Growth Triangle: IMT-GT) ระหว่างวันที่ 13 - 16 กันยายน 2565 ที่ จ. ภูเก็ต การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) NCIA (สำหรับ KRC) และกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ได้ลงนามในความร่วมมือขับเคลื่อนเมืองยางพารา 3 ประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าการส่งออก
นอกจากนี้ ในพื้นที่ NCER ยังมี Industrial Parks อื่น ๆ อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเปิดให้บริการในอนาคต ได้แก่
-
- Kedah Science & Technology Park (KSTP) รัฐเกดะห์ ตั้งอยู่ห่างจาก (1) ด่านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเกดะห์ ประมาณ 5 กิโลเมตร และ (2) ด่านปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส ประมาณ 44 กิโลเมตร เน้นการพัฒนา Advance Materials และ Agro-Science
- Sidam Advanced Manufacturing and Logistics Hub (SLAM) รัฐเกดะห์ ตั้งอยู่ห่างจาก (1) ด่านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเกดะห์ ประมาณ 141 กิโลเมตร และ (2) ด่านปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส ประมาณ 151 กิโลเมตร เน้นกิจกรรมที่มีมูลค่าสูงในด้านการผลิต โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ
สิทธิประโยชน์การลงทุนในพื้นที่ NCER ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 NCIA ได้ปิดรับสมัครขอรับสิทธิประโยชน์ฯ NCER Tax Incentives (NTAX) และจะคาดว่าจะประกาศรายละเอียดสิทธิประโยชน์ฯ ชุดใหม่ในห้วงกลางปี 2568 โดยจะเป็นไปตาม New Investment Aspirations (NIA) และ New Industrial Master Plan (NIMP) 2030 ของรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งมุ่งส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
พัฒนาการสำคัญในพื้นที่ NCER
- สถิติการลงทุนในปี 2567 ที่ประชุม NCIA ครั้งที่ 33 (6 มีนาคม 2568) ซึ่งมี Dato’ Seri Anwar Ibrahim นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นประธาน ระบุว่า ในปี 2567 มูลค่าการลงทุนที่เกิดขึ้นจริง (realized investments) ในพื้นที่ NCER อยู่ที่ 64.7 พันล้านริงกิต (เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.45 เมื่อเทียบกับปี 2566) ช่วยสร้างโอกาสการจ้างงานมากกว่า 14,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ การลงทุนในพื้นที่ NCER ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (31.29 พันล้านริงกิต และ 42.45 พันล้านริงกิต ในปี 2565 - 2566 ตามลำดับ)
- ทิศทางการพัฒนาของพื้นที่ NCER
- เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 รัฐบาลมาเลเซียได้ลงนามข้อตกลงมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับบริษัท Arm Holdings Plc. ซึ่งเป็นบริษัทผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมชิปชั้นนำของโลก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและยกระดับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI ของมาเลเซีย และมีเป้าหมายให้มาเลเซียสามารถผลิตชิป “Made by Malaysia” ภายในปี 10 ปีข้างหน้า
- NCIA จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมฯ ดังกล่าว โดยให้ความสำคัญลำดับต้นกับการพัฒนาการผลิตบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง (Advanced Packaging - AP) สนับสนุนระบบนิเวศการผลิตที่มีมูลค่าสูง (High Value Manufacturing - HVM) สอดคล้องกับ National Semiconductor Strategy (NSS) ของรัฐบาลมาเลเซีย
- เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI ของมาเลเซียดังกล่าว NCIA จะดำเนินการขับเคลื่อนเป้าหมายข้างต้นผ่านข้อริเริ่มต่าง ๆ อาทิ
- สร้างศูนย์ NCER Technology Innovation Centre (NTIC) เพื่อเป็นแพลตฟอร์มหลักในการขับเคลื่อนนวัตกรรม
- จัดตั้งสถาบัน Advanced Packaging Institute and Research Centre (APIRC) เพื่อเป็น Center of Excellence (CoE) ช่วยเร่งสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การพัฒนาบุคลากร และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบนิเวศ
- ร่วมมือกับบริษัท Arm Holdings Plc. เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI
- NCIA คาดว่าข้อริเริ่มฯ ข้างต้นจะสามารถสร้าง talents ที่มีทักษะสูงได้ 20,000 ตำแหน่งภายในระยะเวลา 5 ปี เพิ่มความสามารถในทำการตลาด (marketability) และเพิ่มโอกาสการลงทุนในสาขาเทคโนโลยีในพื้นที่ NCER
โอกาสสำหรับประเทศไทย
- ด้วยทำเลที่ตั้งของ NCER ที่ติดกับจังหวัดภาคใต้ของไทยซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากร/วัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตของมาเลเซียในหลายสาขา อาทิ ยางพารา ฮาลาล อาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ จังหวัดภาคใต้ของไทยยังมีพื้นที่อุตสาหกรรมที่สำคัญ 2 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรม จ. สงขลา/เขตเศรษฐกิจพิเศษ อ. สะเดา จ. สงขลา (อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ การเกษตรและถนอมอาหาร อุตสาหกรรมเบา สินค้าจากไม้ การผลิตเครื่องสำอาง หรืออาหารเสริม การผลิตแผงวงจรและส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ศูนย์กระจายสินค้า และห้องเย็น) และ เมืองยางพารา (Rubber City) อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา (อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ โลจิสติกส์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ SMEs ในภาคเกษตร) จึงนับเป็นโอกาสสำหรับภาคธุรกิจไทยในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมเป้าหมายของโครงการฯ ในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซียที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ อาทิ
- การร่วมลงทุน วิจัยและพัฒนา ตั้งฐานการผลิตในมาเลเซีย และพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่เกี่ยวข้อง: ธุรกิจไทยที่ต้องการขยายการลงทุน สามารถพิจารณาร่วมลงทุนหรือใช้โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ NCER สำหรับตั้งฐานการผลิตในส่วนที่จะช่วยส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนพัฒนาบุคลากรในระยะยาว เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ NCIA และร่วมวิจัยและพัฒนาในโครงการต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมยางพารา การเกษตรและแปรรูป ฮาลาล และอิเล็กทรอนิกส์
- การขยายตลาดส่งออกสินค้าฮาลาลมายังตลาดมาเลเซีย และตลาดในประเทศที่สาม: อุตสาหกรรมฮาลาลเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมในพื้นที่ NCER ภาคธุรกิจไทยสามารถพัฒนาและแปรรูปสินค้าฮาลาลเพื่อให้ผ่านการรับรองฮาลาลของมาเลเซีย ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก เพื่อเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย และขยายโอกาสไปยังประเทศที่สาม โดยเฉพาะประเทศมุสลิมที่มีศักยภาพ
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงกับมาเลเซีย ภูมิภาคและโลก: ภาคธุรกิจไทยสามารถใช้ประโยชน์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย ซึ่งติดกับพื้นที่ NCER ส่งเสริมความเชื่อมโยงในมิติต่าง ๆ ทั้งความเชื่อมโยงทางราง (ผ่านสถานีรถไฟปาดังเบซาร์และ Perlis Inland Port (PIP)) ทางบก (ผ่านด่านพรมแดนทางบก) และทางน้ำ อาทิ ท่าเรือปีนังและท่าเรือกลัง เพื่อส่งออกไปยังประเทศแถบตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และยุโรป นอกจากนี้ ไทยสามารถใช้ท่าเรือสงขลา และท่าเรือระนอง เพื่อเป็นทางเลือกในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศผ่านเครือข่ายท่าเรือปีนังและท่าเรือกลังของมาเลเซีย
คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจลงทุน
- NCER เป็นพื้นที่ได้รับการส่งเสริมในเชิงนโยบายจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของมาเลเซียอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ มีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทย - มาเลเซีย ท่าเรือปีนัง สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ ด่านศุลกากรสะเดา เป็นต้น ซึ่งเป็นจุดติดต่อการขนส่งสินค้าและการให้บริการโลจิสติกส์ที่สำคัญของไทย มาเลเซีย และภูมิภาคอาเซียน จึงนับเป็นพื้นที่มีศักยภาพและเหมาะสำหรับนักลงทุนไทย ซึ่งผู้ที่สนใจลงทุนควรเริ่มเตรียมการ ดังนี้
- ศึกษาอุตสาหกรรมเป้าหมาย พิจารณาว่าธุรกิจของท่านสอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ได้รับการสนับสนุนในพื้นที่ NCER หรือไม่ ซึ่งอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงของ NCER ได้แก่ การผลิตขั้นสูง เซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าฮาลาล ยางพารา และโลจิสติกส์
- ศึกษาความพร้อมของพื้นที่ เนื่องจากรัฐแต่ละแห่งในพื้นที่ NCER มีจุดแข็งและโอกาสที่แตกต่างกัน (1) เกาะปีนังเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และการผลิตขั้นสูง (2) รัฐเกดะห์เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และการผลิตขั้นสูง พลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมฮาลาล (3) รัฐเประเหมาะสำหรับธุรกิจการเกษตรสมัยใหม่ อุตสาหกรรมฮาลาล และยานยนต์ (4) รัฐปะลิสเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมฮาลาล โลจิสติกส์ และการค้าชายแดน เป็นต้น
- ปรึกษาหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน โดยที่ NCIA พร้อมให้การสนับสนุนสิทธิประโยชน์การลงทุนในลักษณะ tailored ซึ่งผู้ที่สนใจลงทุนสามารถติดต่อเพื่อนัดหมายขอพบหารือ/ลงพื้นที่ได้โดยตรง
- เตรียมความพร้อมของผู้ที่สนใจลงทุน เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่านรวมทั้งข้อเสนอทางธุรกิจ เพื่อประกอบการหารือและตัดสินใจของหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของฝ่ายมาเลเซีย อาทิ NCIA และ/หรือ หน่วยงานท้องถิ่นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในแง่การได้รับการสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์
จุดติดต่อสำหรับผู้สนใจลงทุนใน NCER
สำนักงาน Northern Corridor Implementation Authority (NCIA)
ตั้งอยู่ที่ No. 1114 Jalan Perindustrian Bukit Minyak 18, Penang Science Park, 14100 Simpang Ampat, Pulau Pinang
หมายเลขโทรศัพท์ +604 502 0708 โทรสาร +607 233 3001
เว็บไซต์ https://www.ncer.com.my/
* * * * *
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://www.ncer.com.my/
https://www.mida.gov.my/why-malaysia/economic-corridors/
https://www.mida.gov.my/mida-news/national-semiconductor-strategy-to-guide-industry-up-value-chain/
https://www.mida.gov.my/mida-news/new-investment-incentive-framework-to-be-announced-by-middle-of-this-year/
https://www.miti.gov.my/NIA/
https://www.nimp2030.gov.my/
https://theedgemalaysia.com/node/711694
https://bernama.com/en/news.php?id=2352323
https://www.facebook.com/share/v/16AWtYaM4X/
https://raot.co.th/ewtadmin/ewt/rubber_web/mobile_detail.php?cid=386&nid=90968